บัวขาว บัญชาเมฆ: นักมวยไทยระดับโลกที่โดดเด่นในวงการ


บัวขาว บัญชาเมฆ ถือเป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขาได้สร้างชื่อเสียงในวงการมวยไทยด้วยทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทว่า ความสามารถของเขาไม่เพียงแค่จำกัดอยู่ในมวยไทยเท่านั้น แต่ยังขยายไปยังวงการ MMA และการพนันกีฬามวยที่กำลังเติบโตทั่วโลก แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักสู้ MMA เต็มตัว แต่ชื่อเสียงของบัวขาวในวงการนี้ก็มีผลกระทบอย่างมากในการเดิมพัน MMA และมวยทั่วโลก
ไฟท์แรกในศึก BKFS มวยไร้นวม: "บัวขาว" อัด "วาโรล" น็อกยกแรก
"บัวขาว บัญชาเมฆ" เปิดตัวในการชกมวยไร้นวมครั้งแรกได้อย่างสวยงาม บนเวทีวงกลมไร้มุมในรายการ BKFC (Bare Knuckle Fighting Championship) เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565 โดยเขาขึ้นชกคู่เอกของรายการและเอาชนะน็อกคู่ชกจาก ตุรกี "เออร์แกน วาโรล" ในยกแรก
ในช่วงเปิดเกม บัวขาวเริ่มต้นด้วยการดูเชิงคู่ชกได้ไม่นานก็เริ่มออกหมัดกระแทกอย่างหนัก ในนาทีที่ 1:15 ของยกแรก หมัดของบัวขาวส่ง วาโรล ล้มลงไปกองกับพื้นเวที และกรรมการได้ยุติการชกทันที
หลังจากจบเกม บัวขาวให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้ตั้งใจจะชนะอย่างรวดเร็วขนาดนี้ แต่เป็นเพราะเขาออกหมัดกระแทกไปโดยไม่คาดคิด เพราะเขาเคยชินกับการใส่นวมในการชกมวยมาก่อน เมื่อโดนหมัดจากคู่ชก เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะรุนแรงถึงขนาดนั้น แต่รู้สึกว่าหมัดเข้าถึงเนื้อและเป้าหมายได้ดีมากขึ้น
เส้นทางการต่อสู้ของบัวขาว บัญชาเมฆ
บัวขาวเริ่มต้นการชกมวยไฟท์แรกในชีวิตตอนอายุเพียง 8 ขวบที่บ้านเกิดในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเขาสามารถคว้าชัยชนะในสนามได้เรื่อยๆ ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการมวยไทย จนเมื่อเขามีอายุได้ 15 ปี เขาก็ย้ายมาที่กรุงเทพฯ และเข้าร่วมสังกัดในค่ายมวย ป.ประมุข ใช้ชื่อในการชกว่า ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ ซึ่งชื่อเสียงของเขาเริ่มขยายออกไปเมื่อเขาทำผลงานได้ดีและชกมวยไทยคว้าเข็มขัดจากหลายเวที
แชมป์ที่สำคัญในวงการมวยไทย:
- แชมป์ รุ่นเฟเธอร์เวท ที่เวทีสยามอ้อมน้อย
- แชมป์ รุ่นเฟเธอร์เวท ประเทศไทย
- แชมป์ รุ่นไลท์เวท ที่เวทีสยามอ้อมน้อย
- ในปี พ.ศ. 2545, บัวขาวคว้าแชมป์ที่สนามมวยเวทีลุมพินี โดยการเอาชนะ โคบายาชิ นักมวยชื่อดังจากญี่ปุ่นในศึก มวยไทยมาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์
การเปลี่ยนเส้นทางสู่ K-1 และความสำเร็จระดับโลก:
ในปี 2547, บัวขาวได้ตัดสินใจเบนเข็มจากการชกมวยไทยมาสู่ K-1 ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนั้น โดยที่ มวย MMA ก็กำลังเริ่มเป็นที่รู้จัก แต่บัวขาวเลือกที่จะชก K-1 เพราะกติกาของมันไม่ต่างจากมวยไทยมากนัก
- แชมป์ K-1 World MAX ครั้งแรก (ปี 2547): บัวขาวสามารถคว้าแชมป์รายการ K-1 World MAX โดยการโน้มคอตีเข่าจน มาซาโตะ นักชกชื่อดังชาวญี่ปุ่นล้มลงในนัดชิง
- ในปี 2548, การแข่งขัน K-1 ได้มีการออกประกาศใหม่เกี่ยวกับกฎการแข่ง โดยห้าม โน้มคอตีเข่า ก่อนการแข่งขันของบัวขาวเพียงแค่วันเดียว หลังจากที่บัวขาวใช้ท่าทางนี้เอาชนะคู่แข่งได้อย่างเหนือชั้นในปี 2547 กฎใหม่จึงถูกเปลี่ยนแปลง
แชมป์ K-1 สมัยที่สอง (ปี 2549):
บัวขาวเป็นนักมวยไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ K-1 World MAX สมัยที่สองในปี 2549 ซึ่งสร้างความยิ่งใหญ่ในวงการมวยไทยและทำให้ชื่อของเขาโด่งดังไปทั่วโลก
บัวขาว ก้าวขึ้นมา เป็นโปรโมเตอร์มวย
เมื่อปีพ.ศ. 2556ที่สนามสุรินทร์ภักดี บัวขาว ได้เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันชกมวยเอง ในรายการแม็กซ์เวิลด์ แชมป์เปี้ยนปี 2013 จังหวัดสุรินทร์ เป็นหนึ่งรายการแข่งขันมวยไทยระดับนานาชาติ ในรูปแบบทัวร์นาเม้นท์แข่งกันในวันที่ 6 พฤษภาคมปีนั้นเอง และนั้นก้เป็นการจัดโปรโมเตอร์มวยเป้นครั้งแรกของบัวขาว
ประวัติของบัวขาว บัญชาเมฆ

บัวขาว บัญชาเมฆ, หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดำดอทคอม และ ดำทมิฬ เกียรติอนันต์, เป็นหนึ่งในนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ชื่อจริงของเขาคือ สมบัติ บัญชาเมฆ ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2527 ที่อำเภอสำโรงทาน จังหวัดสุรินทร์ เป็นบุตรคนที่ 4 ของ นายเล็ง กับ นางปาน จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน (ชาย 2 คน หญิง 3 คน)
การเริ่มต้นชกมวย
บัวขาวเริ่มฝึกหัดมวยตั้งแต่เด็ก และเริ่มชกมวยอย่างเป็นทางการเมื่ออายุได้ 8 ขวบ ที่บ้านเกิดในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเขาเป็นนักมวยไทยเชื้อสาย กูย หรือ ส่วย หลังจากนั้น เมื่อเขามีอายุได้ 15 ปี ก็ย้ายมาอยู่กับค่าย ป.ประมุข ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการสร้างชื่อเสียงของเขาในวงการมวยไทย
เส้นทางสู่ K-1 และการกลับมาชกมวยไทย
บัวขาวมีชื่อเสียงในวงการมวยไทยและได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ K-1 ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปี 2547 ในการเดินทางไปชก K-1 นี้ บัวขาวได้รับความสนใจอย่างมากจากแฟน ๆ ทั่วโลกและสามารถคว้าแชมป์ K-1 มาได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากนั้นเขาก็หายออกจากค่ายมวยและเริ่มหันไปชกมวย K-1 อย่างจริงจัง
กลับมาสู่การชกมวยไทยและการเปิดค่าย
หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในเวที K-1 บัวขาวกลับมาเปิดค่ายมวยที่ สุรินทร์ ร่วมกับ ดี พุฒหอม (ครูมวยคนแรก) และ ทอง บุรากร (เทรนเนอร์คนแรก) ซึ่งใช้ชื่อค่ายว่า บัญชาเมฆ นอกจากนี้ บัวขาวยังเซ็นสัญญากลับมาร่วมงานกับค่าย ป.ประมุข อีกครั้งเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมีนักมวยชื่อดังจากค่ายนี้ เช่น นารูโตะ บัญชาเมฆ และ ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ ที่ได้เข้าร่วมค่ายเดียวกัน
การศึกษาและเส้นทางอาชีพ
- ปริญญาตรี: จบจากมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต
- ปริญญาโท: สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ปี 2556)
- ปริญญาเอก: สาขาวิชายุทธศาสตร์การพัฒนาภูมิภาค จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (ปี 2557)
นอกจากนี้ บัวขาวยังเคยเป็นนักฟุตบอลศูนย์หน้าอาชีพใน ไทยลีก ดิวิชั่น 2 ให้กับสโมสรฟุตบอล อาร์แบค ในฤดูกาลปี 2014
ครอบครัวและชีวิตส่วนตัว
บัวขาวมีภรรยานอกสมรสชื่อ นางสาวอัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือ เก๋ และมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ ด.ญ. พิมพ์ญาดา บัญชาเมฆ หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้องมีตังค์ และอีกชื่อหนึ่งคือ น้องข้าวหอม ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558
การรับราชการทหาร
ในปี 2557, บัวขาวได้เข้ารายงานตัวที่ โรงเรียนนายสิบทหารบก ค่ายธนะรัชต์ ศูนย์การทหารราบ ปราณบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับราชการเป็นทหาร
สถิติการชกของบัวขาว บัญชาเมฆ
สถิติการชก | จำนวนครั้ง |
---|---|
ชนะ | 227 ครั้ง |
ชนะน็อค | 68 ครั้ง |
แพ้ | 23 ครั้ง |
เสมอ | 12 ครั้ง |
เกียรติประวัติที่สำคัญของบัวขาว บัญชาเมฆ
- แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท (ที่สนามมวยลุมพินี) – ปี 2544
บัวขาวเริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จในวงการมวยไทยด้วยการคว้าแชมป์ประเทศไทยในรุ่นเฟเธอร์เวทที่สนามมวยลุมพินี ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวที่สำคัญในอาชีพของเขา - แชมป์ K-1 World MAX Champion – ปี 2004 และ 2006
บัวขาวได้สร้างชื่อเสียงระดับโลกโดยการคว้าแชมป์ K-1 World MAX ถึง 2 สมัยในปี 2004 และ 2006 โดยเขาเข้าชิงรอบสุดท้ายถึง 5 ครั้ง - แชมป์ 2010 Shoot Boxing S-Cup World Champion – ปี 2553
บัวขาวกลายเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ Shoot Boxing S-Cup World Championship ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับโลกที่มีชื่อเสียง - แชมป์ สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World Champion – ปี 2549, 2552, 2554, 2557
เขาคว้าแชมป์ WMC World Champion ถึง 4 สมัยในช่วงปี 2549, 2552, 2554, และ 2557 ซึ่งทำให้ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในวงการมวยไทยโลก - แชมป์ สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Championship – ปี 2557
การคว้าแชมป์ WBC Muaythai Diamond World Championship ในปี 2557 ถือเป็นหนึ่งในเกียรติประวัติที่สำคัญที่สุดในชีวิตการต่อสู้ของบัวขาว - แชมป์ ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม – สนามมวยลุมพินี ปี 2545
บัวขาวได้รางวัลนี้ในฐานะนักมวยที่แสดงทักษะการไหว้ครูที่สวยงามและยิ่งใหญ่ในสนามมวยลุมพินี - แชมป์มวยไทยไฟท์ ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว – ปี 2554, 2555
เขาคว้าถ้วยพระราชทานในปี 2554 และ 2555 ซึ่งเป็นการยกย่องความสามารถในวงการมวยไทยของเขา - รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว – ปี 2555
บัวขาวได้รับการยกย่องให้เป็นนักกีฬาอาชีพดีเด่น โดยได้รับถ้วยพระราชทานในปี 2555 - แชมป์ "มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์" ถ้วยพระราชทานจากกษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค – ปี 2557
การคว้าแชมป์นี้ทำให้บัวขาวได้รับการยกย่องในระดับสากลจากกษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค - กรรมการบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิงแห่งประเทศไทย
บัวขาวไม่เพียงแต่เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียง แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากีฬาคิกบ็อกซิงในประเทศไทย โดยเป็นกรรมการบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิงแห่งประเทศไทย - ผู้จัดการทีมนักกีฬา คิกบ็อกซิงทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม
บัวขาวมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมกีฬาคิกบ็อกซิงในระดับชาติและยังเป็นผู้จัดการทีมในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2021
บัวขาวยังไม่เคยชกในรายการ MMA แต่ลูกศิษย์คว้าแชมป์ใน ONE Championship

บัวขาว บัญชาเมฆ, ตำนานนักมวยไทยและ K-1, ยังไม่เคยชกในรายการ MMA โดยตรง แม้ว่าจะมีชื่อเสียงจากการชกมวยไทยและ K-1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่เขายังไม่เคยขึ้นสังเวียนในรายการ MMA อย่าง ONE Championship หรือ UFC แม้ว่าในตอนนี้ ONE Championship ซึ่งมีรูปแบบการแข่งขันที่คล้ายกับ UFC จะเป็นรายการที่ได้รับความนิยมในเอเชียและทั่วโลก
ใน ONE Championship นักมวยไทยคนดังอย่าง ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆ ลูกศิษย์ของบัวขาวได้คว้าแชมป์ในรายการนี้ ซึ่งทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บัวขาวเองยังไม่เคยขึ้นชกในเวที ONE Championship แต่ก็ได้สนับสนุนและช่วยเหลือลูกศิษย์ในค่ายไปสู่ความสำเร็จในรายการนี้
แม้ว่าบัวขาวจะไม่ได้ชกใน ONE Championship แต่ในปี 2565 เขาก็ได้มีโอกาสขึ้นชกโชว์ในรายการ ราชดำเนิน เวิลด์ ซีรีส์ (Rajadamnern World Series: RWS) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 โดยเป็นการพบกับ โคตะ มิอุระ นักชก MMA ชาวญี่ปุ่น ซึ่งบัวขาวสามารถเอาชนะไปได้อย่างง่ายดายด้วยการ น็อกเอาท์ ในยกแรก
บัวขาวและอิทธิพลของเขาในวงการมวยและ MMA
ไม่เพียงแต่ในสนามมวยที่บัวขาวโดดเด่น แต่ในวงการเดิมพันกีฬามวย บัวขาวยังมีบทบาทสำคัญ เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดในการแข่งขันกีฬาต่อสู้ทั่วโลก โดยเฉพาะในตลาดการเดิมพันกีฬา การแข่งขันของบัวขาวไม่เพียงแต่เป็นการแสดงทักษะการต่อสู้ แต่ยังสร้างโอกาสให้แฟน ๆ ได้ร่วมเดิมพันกับผลการแข่งขัน
บทความเกี่ยวข้องอื่นที่น่าสนใจ
- 1xBet ผนึกกำลัง Mark Striegl รุกตลาดเดิมพัน MMA ในฟิลิปปินส์
- วิธีการพนันมวยออนไลน์และกฎกติกา
- นักชก UFC ที่มีรายได้มากสุด
- ฉลอง 10 ปี ONE X ศึก MMA ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเซีย
- แสตมป์” คว้าชัยในศึก One Fight Night 2 ยังรั้งเบอร์ 1 MMA อะตอมเวต
- โอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ชนะน็อก “อลาเวอร์ดี
- ซุปเปอร์บอนVS เปรโตรเชี่ยน