5อันดับนักชก UFC ที่รวยที่สุดในปี 2025 พร้อมมูลค่าทรัพย์สินล่าสุด


นักชก UFC ที่รวยที่สุดในปี 2025
นี่คือนักชกของ UFC ที่มีรายได้มากที่สุด จากการสำรวจในปี 2025 ขอระบุว่าตัวเลขเหล่านี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสัญญานักประชันผู้รับจ้าง การตกลงสนับสนุน และแหล่งรายได้อื่น ๆ ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาความนิยมในการเดิมพัน UFC เรามาทำความรู้จักกับพวกเค้า และผลงานสั้น ในวงการ UFC
เว็บสปอร์ตบุ๊คออนไลน์ UFC ที่ดีที่สุด



คอนเนอร์ แม็กเกรเกอร์ (Conor McGregor)

คอนเนอร์ แม็กเกรเกอร์ (Conor McGregor) นักชก UFC ชาวไอริช ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการศิลปะการต่อสู้ เขาคือหนึ่งในนักมวยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทั้งในฐานะนักชกและนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
เส้นทางการชก
แม็กเกรเกอร์เริ่มต้นการชกใน UFC ในปี 2013 และไม่นานก็กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการ ด้วยการต่อสู้ที่มีทักษะการชกอันโดดเด่น และสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งช่วยให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักชกที่มีความสามารถสูงสุดในยุคของเขา ในปี 2015 เขาทำลายสถิติด้วยการคว้าแชมป์สองรุ่น (Featherweight และ Lightweight) ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ UFC ที่นักชกสามารถครองแชมป์ได้สองรุ่นพร้อมกัน
แมตช์สำคัญ
คอนเนอร์ แม็กเกรเกอร์มีแมตช์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากหลายครั้งในประวัติศาสตร์ของ UFC ซึ่งรวมถึงการปะทะกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเวอร์ จูเนียร์ ในปี 2017 ที่แม็กเกรเกอร์ลงชกในศึกมวยกับเมย์เวทเวอร์ โดยแม้เขาจะแพ้ในการแข่งขันครั้งนั้น แต่การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เขาได้รับรายได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ได้รับรายได้สูงที่สุดในโลก นอกจากนั้น การแข่งขัน UFC ของเขากับ Nate Diaz และ Eddie Alvarez ยังทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับการยอมรับจากแฟนๆ ทั่วโลก
ธุรกิจและการลงทุน
นอกจากการเป็นนักชกที่มีชื่อเสียง แม็กเกรเกอร์ยังเป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถ โดยเขามี แบรนด์สุรา ของตัวเองชื่อ Proper No. Twelve ซึ่งเป็นวิสกี้ไอริชที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีการขยายตลาดในหลายประเทศทั่วโลก อีกทั้งเขายังมี McGregor FAST, โปรแกรมการฝึกที่ออกแบบเพื่อพัฒนาทักษะการต่อสู้และความแข็งแรงให้กับนักกีฬา
นอกจากนี้ คอนเนอร์ยังมีการลงทุนใน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ แบรนด์เสื้อผ้า อย่าง August McGregor ซึ่งแสดงถึงความหลากหลายในการสร้างรายได้จากหลายช่องทาง
ภาพลักษณ์และความเป็นที่นิยม
การสร้างตัวตนในวงการ UFC ของคอนเนอร์ แม็กเกรเกอร์มีส่วนสำคัญที่ทำให้เขาได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการ พูดหยิ่ง หรือ ท่าทางการโปรโมตตัวเอง ที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา เขามีแฟนๆ ที่ติดตามจำนวนมากทั้งในและนอกสนามการต่อสู้ แม้จะมีการวิจารณ์ในบางครั้งเกี่ยวกับท่าทีที่ไม่เหมาะสม แต่เขาก็ยังคงเป็นนักชกที่มีความสามารถและมีกระแสคนพูดถึงตลอด
คาบีบ นูร์มาโกเมดอฟ Khabob Nurmagomedov

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิโดยประมาณ: 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (อัปเดตปี 2025)
คาบีบ นูร์มาโกเมดอฟ (Khabib Nurmagomedov) เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่โด่งดังที่สุดในวงการ UFC และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักประชันผสมศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เขายังแข่งขันใน UFC คาบีบมีสถิติการชกที่ไม่เคยแพ้ในการแข่งขัน MMA (Mixed Martial Arts) ซึ่งถือว่าเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง โดยเขาชนะได้ทั้งในการแข่งขันในหมวดน้ำหนักไลต์เวท (Lightweight) และได้รับการยกย่องจากแฟน ๆ และผู้เชี่ยวชาญในวงการ
ประวัติการชกและความสำเร็จ
คาบีบ นูร์มาโกเมดอฟ เกิดที่เมืองดาเกสถานในรัสเซีย เมื่อปี 1988 และเริ่มต้นฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก เขาฝึกซ้อมในหลายๆ รูปแบบ รวมถึงการปล้ำ (wrestling) และการต่อสู้ในแบบจูจิตสู (Jiu-Jitsu) ซึ่งทำให้เขามีทักษะในการคว้าคู่ต่อสู้ได้อย่างเหนือชั้น จนกลายเป็นนักชกที่ไม่เคยแพ้ตลอดเส้นทางการชก MMA ที่มีสถิติชนะ 29 ครั้งใน 29 แมตช์
ใน UFC คาบีบได้รับการยกย่องเป็นแชมป์ไลต์เวท (Lightweight Champion) และสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์ได้จนถึงการเกษียณ โดยการชนะคู่ต่อสู้ชื่อดังมากมาย เช่น ดัสติน ปัวริเยร์ (Dustin Poirier), โธนี่ เฟอร์กูสัน (Tony Ferguson), และ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ (Conor McGregor) ที่เป็นคู่ต่อสู้ที่มีชื่อเสียงทั่วโลก
การเกษียณจากวงการ UFC
คาบีบตัดสินใจเกษียณจากการชก MMA หลังจากที่ชนะในแมตช์สุดท้ายในปี 2020 ด้วยการเก็บสถิติไม่แพ้ใคร เขาได้ยุติการเดินทางในวงการต่อสู้ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อของเขา ซึ่งเป็นโค้ชและผู้ฝึกสอนหลักให้กับเขา คาบีบไม่ต้องการให้ตัวเองมีการต่อสู้ที่อาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากขึ้น หลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิตในปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาตัดสินใจว่าเขาไม่ต้องการจะเดินหน้าต่อไปใน UFC
ชีวิตหลังจากการเกษียณ
แม้ว่าคาบีบจะเกษียณจาก UFC ไปแล้ว แต่ชื่อเสียงของเขายังคงคงอยู่ในวงการกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เขายังคงเป็นที่เคารพในหมู่แฟน ๆ และนักกีฬารุ่นใหม่ เขามีการลงทุนในหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจยิม, การผลิตอุปกรณ์กีฬา, และการเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ที่ชื่อว่า "Eagle Fighting Championship" ซึ่งเป็นการส่งเสริม MMA ในรัสเซียและทั่วโลก
นอกจากนี้ คาบีบยังได้ร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ เช่น Adidas และได้รับข้อเสนอจากการทำธุรกิจต่างๆ ที่เสริมสร้างรายได้ให้เขาอย่างต่อเนื่อง โดยที่เขายังได้ทุ่มเทให้กับกิจกรรมการกุศลและการพัฒนาวงการกีฬาในประเทศรัสเซียและทั่วโลก
ความนิยมในการเดิมพัน UFC
ความสำเร็จของคาบีบ นูร์มาโกเมดอฟ ยังคงส่งผลกระทบต่อวงการการเดิมพัน UFC โดยนักเดิมพันหลายคนมักจะมองหาโอกาสในการทำนายผลการแข่งขันของเขา คาบีบเป็นที่รู้จักในฐานะนักสู้ที่ไม่เคยแพ้ ซึ่งทำให้การเดิมพันในแมตช์ที่เขาร่วมเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเดิมพัน ที่ต้องการทำเงินจากการคาดการณ์ผลการแข่งขันที่คาดเดาได้ยาก
มูลค่าทรัพย์สินและการลงทุน
ในปี 2025 คาบีบ นูร์มาโกเมดอฟ ได้ยกระดับฐานะทางการเงินของตัวเองด้วยการลงทุนในธุรกิจหลายด้าน โดยเฉพาะการลงทุนในวงการกีฬาและการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา MMA ซึ่งช่วยให้เขามีรายได้อย่างมั่นคง แม้จะไม่ชกใน UFC อีกต่อไป แต่การมีชื่อเสียงระดับโลกทำให้คาบีบยังคงสามารถสร้างรายได้จากการสนับสนุนและการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำได้อย่างมากมาย
โจร์จ แซนต์ปิแอร์ (Georges St-Pierre)

โจร์จ แซนต์ปิแอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ GSP (จีเอสพี) ถือเป็นหนึ่งในตำนานของวงการ UFC และเป็นนักชกที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักประชันที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ MMA (Mixed Martial Arts) GSP เกิดในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 1981 และเริ่มต้นเส้นทางการชกมวยตั้งแต่เด็กๆ โดยได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้หลายรูปแบบทั้งมวยไทย, มวยปล้ำ, และศิลปะการต่อสู้แบบผสม
เส้นทางอาชีพใน UFC
โจร์จ แซนต์ปิแอร์เริ่มต้นอาชีพใน UFC ในปี 2004 และทันทีที่เขาเข้าสู่วงการ UFC เขาก็ได้สร้างความประทับใจด้วยการโชว์ฟอร์มที่โดดเด่นและความสามารถในการปรับตัวกับคู่ต่อสู้ที่หลากหลาย สถิติของเขาใน MMA คือ 26 ชนะ 2 แพ้ ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความสม่ำเสมอในการแข่งขัน
เขาคว้าแชมป์ UFC รุ่นวอลเตอร์เวท (Welterweight) ได้ในปี 2006 และรักษาตำแหน่งแชมป์ได้จนถึงปี 2013 โดยรวมแล้วเขาป้องกันตำแหน่งแชมป์ได้ถึง 9 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติที่ทำให้เขาได้รับการยกย่องจากแฟนๆ และนักวิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งในนักชกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน UFC
หลังจากการเกษียณในปี 2013 และการห่างหายจากวงการชกมวยอยู่นาน GSP กลับมาสู่ UFC ในปี 2017 และสามารถคว้าแชมป์ UFC รุ่นมิดเดิลเวท (Middleweight) ได้อีกครั้ง โดยเอาชนะ Michael Bisping ด้วยการต่อสู้ที่โดดเด่น ทำให้เขากลายเป็นแชมป์ UFC หลายรุ่น
ความสำเร็จนอกวงการ UFC
นอกจากการเป็นนักชกระดับตำนานแล้ว GSP ยังมีการปรากฏตัวในวงการบันเทิงและธุรกิจ ซึ่งช่วยเสริมรายได้ให้กับเขาอย่างมาก เขาเคยแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเช่น Captain America: The Winter Soldier และ The Falcon and the Winter Soldier ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
เขายังได้รับสัญญาโฆษณาจากหลายแบรนด์ดัง เช่น Under Armour และ Coca-Cola ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขา GSP ยังมีธุรกิจส่วนตัวในหลายๆ ด้าน ทั้งในวงการกีฬาและสุขภาพ เช่น การลงทุนในธุรกิจยิม และการเป็นเจ้าของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ
ลักษณะการชกและสไตล์
โจร์จ แซนต์ปิแอร์ขึ้นชื่อในเรื่องของความยืดหยุ่นและความหลากหลายในการต่อสู้ เขามีสไตล์การชกที่ผสมผสานระหว่างมวย, มวยปล้ำ, และ Brazilian Jiu-Jitsu (BJJ) โดยเขาสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ให้เข้ากับคู่ต่อสู้ในแต่ละแมตช์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาสามารถครองแชมป์ในหลายๆ รุ่นได้
เขายังโดดเด่นในเรื่องของการควบคุมเกม และการพัฒนาทักษะทางเทคนิค ซึ่งทำให้เขาสามารถป้องกันตำแหน่งแชมป์ได้เป็นระยะเวลานานใน UFC
มูลค่าทรัพย์สินและอนาคตในวงการกีฬา
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ GSP ในปี 2025 ยังคงอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนอกจากรายได้จากการชกแล้ว เขายังมีการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับเขา ทั้งในด้านกีฬา, สุขภาพ, และความบันเทิง
ถึงแม้ว่า GSP จะลดการลงแข่งขันไปแล้ว แต่เขายังคงมีบทบาทสำคัญในวงการกีฬาผ่านการเป็นผู้ฝึกสอนและที่ปรึกษาให้กับนักชกใน UFC รวมถึงการทำงานในฐานะบุคคลสาธารณะในสื่อและกิจกรรมต่างๆ
โจร์จ แซนต์ปิแอร์ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักชกหลายคนใน UFC และ MMA ทั่วโลก ด้วยทักษะที่ครบถ้วนและการเป็นตัวอย่างของนักกีฬาที่สามารถประสบความสำเร็จทั้งในและนอกวงการกีฬา
บร็อค เลสนาร์ Brock Lesnar

- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: ประมาณ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
บร็อค เลสนาร์ เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทั้งใน UFC, WWE และในกีฬาอื่นๆ เขามีชื่อเสียงจากการเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพ และนักชกใน UFC ที่มีลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่น ด้วยความสูง 6 ฟุต 3 นิ้ว และน้ำหนักกว่า 286 ปอนด์ ซึ่งทำให้เขาเป็นนักกีฬาที่มีรูปร่างใหญ่โตและมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง
เส้นทางใน UFC
บร็อค เลสนาร์เริ่มต้นใน UFC ด้วยความสำเร็จที่รวดเร็ว เขาได้ขึ้นชกใน UFC ตั้งแต่ปี 2008 และในเวลาไม่นานก็กลายเป็นแชมป์ UFC ในหมวดเฮฟวี่เวท โดยชนะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงหลายครั้ง รวมถึงการเอาชนะ แรนดี คูตูร์ (Randy Couture) เพื่อคว้าแชมป์โลก และภายในเวลาเพียง 4 ปี เขาก็ได้ขึ้นเป็นแชมป์ที่มียอดการติดตามสูงสุดของ UFC อย่างรวดเร็ว
การกลับมาของบร็อค เลสนาร์ใน UFC ถือเป็นจุดสำคัญของวงการกีฬาผสมศิลปะการต่อสู้ เขามีสไตล์การชกที่ดุดันและมีทักษะในการคว้าและยกคู่ต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในวงกว้างในวงการกีฬา
การเปลี่ยนเส้นทางไป WWE
หลังจากการชกใน UFC ไปได้สักระยะหนึ่ง บร็อค เลสนาร์ตัดสินใจย้ายกลับไปยัง WWE (World Wrestling Entertainment) ในปี 2011 ซึ่งเป็นการกลับสู่วงการมวยปล้ำที่เขามีชื่อเสียงจากการเป็นนักมวยปล้ำระดับโลก ใน WWE เขาได้กลายเป็นแชมป์โลกหลายครั้ง และเป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก
การกลับมาของบร็อค เลสนาร์ใน WWE นั้นทำให้เขาได้รับความสนใจในวงการบันเทิงอีกครั้ง โดยเขาได้เข้าร่วมในหลายโปรแกรมที่มีชื่อเสียง เช่น การแข่งขันกับ จอห์น ซีนา (John Cena) และการต่อสู้กับ The Undertaker ในรายการ WrestleMania ซึ่งเขาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้นในวงการ WWE
การเข้าร่วม NFL
ในช่วงเวลาสั้นๆ บร็อค เลสนาร์ได้ลองเข้าสู่การแข่งขันใน NFL (National Football League) โดยเขาเล่นเป็นกองหน้าป้องกันในทีม Minnesota Vikings ในปี 2004 ถึง 2005 แม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บและไม่สามารถเล่นได้ยาวนานเท่าที่หวัง แต่ก็เป็นการแสดงถึงความหลากหลายของเขาในด้านกีฬา
ธุรกิจและการลงทุน
นอกจากอาชีพในวงการกีฬาแล้ว บร็อค เลสนาร์ยังมีการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ซึ่งหนึ่งในธุรกิจที่เขามีส่วนร่วมคือการทำฟาร์มและการเกษตร เขามีฟาร์มในมินเนโซตา ซึ่งเขาเลี้ยงหมูและทำฟาร์มแบบที่เขารัก เขายังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแบรนด์ส่วนตัวในอุตสาหกรรมต่างๆ
นอกจากนี้ เลสนาร์ยังมีการลงทุนในด้านการแสดง เช่น การมีบทในภาพยนตร์ และการร่วมมือกับหลายๆ แบรนด์ โดยเฉพาะในรายการที่มีความบันเทิงระดับสูง เช่น "The Expendables 2" และภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับโลกมวยปล้ำ
มูลค่าทรัพย์สิน
บร็อค เลสนาร์มีมูลค่าทรัพย์สินที่สูงถึง 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จทั้งในด้านการกีฬาและธุรกิจ ความสำเร็จใน UFC, WWE, NFL และการลงทุนต่างๆ ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของเขาในระยะยาว
แอนเดอร์สัน ซิลวา (Anderson Silva)

แอนเดอร์สัน ซิลวา เป็นหนึ่งในตำนานของ UFC และถือเป็นหนึ่งในนักสู้ที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของกีฬาผสมศิลปะการต่อสู้ (MMA) เขาได้รับการยอมรับในระดับโลกทั้งในฐานะนักมวยปล้ำและนักกีฬาผู้ทำลายสถิติมากมายตลอดการค้าอาชีพของเขา ซิลวาได้รับฉายาว่า "The Spider" จากสไตล์การต่อสู้ที่ยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างมีสไตล์
เส้นทางอาชีพใน UFC
แอนเดอร์สัน ซิลวาเริ่มต้นเข้าสู่ UFC ในปี 2006 และได้ก้าวขึ้นเป็นแชมป์ UFC Middleweight (มิดเดิลเวต) ในปีเดียวกัน เขาครองแชมป์นี้เป็นเวลาเกือบ 7 ปี จนกลายเป็นแชมป์ที่ครองแชมป์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ UFC ถึง 2,457 วัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้ ซิลวามีสถิติที่น่าทึ่งใน UFC โดยการชนะ 34 ครั้งและแพ้เพียง 11 ครั้งใน MMA และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักชกที่มีทักษะดีที่สุดในวงการนี้
การต่อสู้ที่สำคัญและการทำลายสถิติ
ในช่วงเวลาที่เขาครองแชมป์ ซิลวาได้สร้างชื่อเสียงจากการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีชื่อเสียง เช่น การเอาชนะ Dan Henderson, Rich Franklin, และ Chael Sonnen ซึ่งเขาชนะในการแข่งขันที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก การชกที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาคือการชนะ "Vitor Belfort" ในปี 2011 โดยการเตะหน้าแบบ Knockout ที่รวดเร็ว ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน KO ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ UFC
หลังการเกษียณจาก UFC
หลังจากการเกษียณจาก UFC ซิลวายังคงมีบทบาทในวงการกีฬาและบันเทิง เขายังคงทำงานในวงการภาพยนตร์ โดยมีการแสดงในภาพยนตร์แอคชั่นและซีรีส์ต่างๆ รวมถึงการปรากฏตัวในรายการทีวีต่างๆ ทั้งในบราซิลและต่างประเทศ ซิลวายังได้เปิดธุรกิจส่วนตัวหลายแห่ง เช่น สายการตกแต่งเสื้อผ้าและธุรกิจยิมที่ช่วยเสริมสร้างความสำเร็จให้กับเขานอกเหนือจากการต่อสู้
ธุรกิจและการลงทุน
แอนเดอร์สัน ซิลวาไม่เพียงแต่เป็นนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถ เขาลงทุนในหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและฟิตเนส รวมถึงการลงทุนในยิมและอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมในบราซิลและทั่วโลก นอกจากนี้เขายังเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองที่เน้นการออกแบบเสื้อผ้าออกกำลังกายที่ทันสมัย
มูลค่าทรัพย์สินและการยอมรับ
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของแอนเดอร์สัน ซิลวาในปี 2025 ยังคงสูง โดยประเมินจากการทำธุรกิจ การสนับสนุนจากแบรนด์ต่างๆ และความสำเร็จในวงการกีฬา ความสำเร็จของเขาทั้งในสนามและนอกสนามทำให้เขายังคงเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องในวงการ UFC และได้รับความเคารพจากแฟนๆ ทั่วโลก ซิลวายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่และแฟนๆ ของ MMA ทั่วโลก
การรับรางวัลและเกียรติยศ
แอนเดอร์สัน ซิลวาได้รับการยกย่องด้วยรางวัลมากมายตลอดอาชีพของเขา รวมถึงการได้รับรางวัล UFC Fighter of the Year และ UFC Hall of Fame ในปี 2021 นอกจากนี้เขายังได้รับการยอมรับจากสถาบันต่างๆ ในการเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ดีที่สุดตลอดกาลของ UFC และ MMA