นิวซีแลนด์เตรียมควบคุมคาสิโนออนไลน์ หลังอินฟลูเอนเซอร์ถูกปรับ

ผู้เชี่ยวชาญด้านคาสิโนและซ็อฟแวร์คาสิโน

มิลลี่ เอลเดอร์-โฮล์มส์ ถูกปรับ $5,000 ฐานโปรโมทคาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมาย
มิลลี่ เอลเดอร์-โฮล์มส์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของนิวซีแลนด์ กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อเธอถูกปรับเงิน 5,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากการโปรโมตเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ต่างประเทศ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายในนิวซีแลนด์ แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าเธอใช้แพลตฟอร์มของตนในฐานะ “ธุรกิจส่วนตัว” ที่รับโฆษณาหลายประเภทก็ตาม
กรณีของเธอเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามของ กระทรวงกิจการภายใน (Department of Internal Affairs – DIA) ที่กำลังจับตาอินฟลูเอนเซอร์จำนวนมากที่อาจมีพฤติกรรมโฆษณาการพนันออนไลน์ โดยมีผู้ได้รับคำเตือนแล้ว 9 ราย และอีก 27 รายอยู่ในบัญชีเฝ้าระวัง
อินฟลูเอนเซอร์ในสายตากฎหมายจากโพสต์โฆษณา สู่ค่าปรับนับพันดอลลาร์
DIA เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของอินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดียมากถึง 50 รายการในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยกรณีของมิลลี่ เอลเดอร์-โฮล์มส์ มีการแนบหลักฐานภาพหน้าจอกว่า 36 ภาพ แสดงให้เห็นว่ามีการโปรโมตเว็บไซต์คาสิโนตั้งแต่กลางปี 2024 จนถึงมีนาคม 2025
แม้กฎหมายของนิวซีแลนด์จะห้ามการโฆษณาการพนันจากต่างประเทศโดยเด็ดขาด แต่รายได้ที่เย้ายวนจากโพสต์เดียวซึ่งอาจสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ ทำให้หลายคนยอมเสี่ยงทำผิด แม้โทษสูงสุดจะอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้ฝ่าฝืนก็ตาม
“ฉันเป็นมืออาชีพ”คำตอบของมิลลี่ กับคำถามเรื่องจริยธรรมบนโลกออนไลน์
เมื่อถูกสอบถามจากสื่อ มิลลี่ เอลเดอร์-โฮล์มส์ ตอบกลับในลักษณะที่สะท้อนมุมมองของ “ผู้ประกอบการดิจิทัล” โดยระบุว่า เธอได้รับค่าจ้างเพื่อโปรโมตหลายสิ่ง ทั้งเครื่องสำอาง โรงแรม และอื่น ๆ แสดงให้เห็นถึงการมองแพลตฟอร์มส่วนตัวในฐานะพื้นที่โฆษณาที่ไม่ควรถูกควบคุมเหมือนสื่อกระแสหลัก
ในการให้สัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการผ่านข้อความที่ตอบกลับสื่อ มิลลี่ เอลเดอร์-โฮล์มส์ แสดงความคิดเห็นว่า
“ฉันได้รับค่าจ้างเพื่อโปรโมตหลายสิ่ง ทั้งเครื่องสำอาง โรงแรม และสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ ฉันมองอินสตาแกรมของตัวเองเป็นพื้นที่ทำธุรกิจ ไม่ใช่พื้นที่เพื่อศีลธรรม ฉันเป็นผู้ใหญ่ที่ทำสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำ” — Millie Elder-Holmes
คำพูดดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงทัศนคติของอินฟลูเอนเซอร์บางกลุ่มที่มองการโปรโมตคาสิโนเป็นเพียงงานหนึ่งในหลากหลายแคมเปญ โดยไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบเชิงสังคมอย่างลึกซึ้ง

ปรับหลักพัน แต่รายได้หลักพันต่อโพสต์ โทษยังไม่สะท้อนผลจริง?
องค์กรด้านสุขภาพของชาวเมารี Hapai Te Hauora แสดงความกังวลว่าค่าปรับ 5,000 ดอลลาร์นั้นยังไม่เพียงพอที่จะยับยั้งอินฟลูเอนเซอร์ เนื่องจากบางรายได้รับค่าจ้างจากเว็บไซต์พนันสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ต่อโพสต์ เทียบเท่ากับ “คุ้มค่าเสี่ยง” สำหรับผู้มีผู้ติดตามจำนวนมาก
ทางด้าน Hapai Te Hauora ซึ่งเป็นที่ปรึกษานโยบายสุขภาพของชาวเมารี แสดงความคิดเห็นผ่านการให้สัมภาษณ์ว่า:
“ค่าปรับ 5,000 ดอลลาร์น่ะเหรอ? นั่นคือรายได้จากโพสต์เดียวของพวกเขา มันไม่ใช่ ‘บทลงโทษ’ แต่มันคือ ‘ต้นทุนการทำธุรกิจ’ สำหรับพวกเขา” ตัวแทน Hapai Te Hauora
ประเด็นนี้สะท้อนช่องโหว่ของระบบปรับเงินที่อาจไม่สัมพันธ์กับรายได้จริงของผู้ฝ่าฝืน ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกร้องให้มี บทลงโทษที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น การแบนบัญชี หรือบังคับให้ลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย
รัฐเตรียมปรับโครงสร้างการพนันออนไลน์ โอกาสใหม่หรืออำนาจควบคุมใหม่?
ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลนิวซีแลนด์กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายควบคุมการพนันออนไลน์ฉบับใหม่ โดยมีการเสนอ ออกใบอนุญาตคาสิโนออนไลน์ 15 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เข้ารัฐถึง 200 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2026
ตามร่างกฎหมายของ พรรค ACT ที่เสนอโดยรองหัวหน้าพรรค บรู๊ค แวน เวลเดน ผู้ให้บริการที่ไม่มีใบอนุญาตอาจถูกปรับสูงถึง 5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากระบบห้ามเด็ดขาด สู่การควบคุมในรูปแบบ “ถูกต้องตามกฎหมาย” ภายใต้กรอบที่ชัดเจน เขากล่าวว่า:
“เราจำเป็นต้องออกกฎหมายที่มีกรอบชัดเจน เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่ไร้การควบคุม รัฐบาลควรควบคุมไม่ใช่เพื่อลงโทษ แต่เพื่อปกป้องผู้บริโภค” — Brooke van Velden, ACT Deputy Leader
คำกล่าวนี้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ของรัฐบาลนิวซีแลนด์ ที่กำลังเดินหน้าออกใบอนุญาตคาสิโนออนไลน์ ภายใต้ความพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมใต้ดินให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายและตรวจสอบได้

บทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ในยุคดิจิทัล ธุรกิจหรือความรับผิดชอบทางสังคม?
กรณีของมิลลี่ เอลเดอร์-โฮล์มส์ ได้จุดประกายการถกเถียงที่กว้างขึ้นในสังคมนิวซีแลนด์ ว่า อินฟลูเอนเซอร์ควรถูกมองเป็น “นักการตลาด” หรือ “ผู้สร้างเนื้อหาสาธารณะ” ซึ่งมีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในวงกว้าง
ในยุคที่ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ผูกกับบุคคล การตัดสินใจโปรโมทสินค้าหรือบริการโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางจริยธรรม อาจไม่ใช่เพียงความผิดทางกฎหมาย แต่ยังเป็น ความเสื่อมถอยของมาตรฐานความรับผิดชอบในโลกออนไลน์
บทสรุปข่าว
กรณีของมิลลี่ เอลเดอร์-โฮล์มส์ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของค่าปรับ 5,000 ดอลลาร์ แต่คือกระจกสะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมในยุคที่ โซเชียลมีเดียกลายเป็นช่องทางโฆษณาที่ทรงพลังและอ่อนไหวต่อกฎหมาย
ขณะที่รัฐกำลังเร่งวางกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อควบคุมธุรกิจพนันออนไลน์ และสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพกับความรับผิดชอบ คำถามสำคัญคือ อินฟลูเอนเซอร์และสังคมจะก้าวทันการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร? และจะสามารถใช้พลังของโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างสรรค์มากกว่าทำลายได้หรือไม่