รัฐบาลไทยถอนร่างกฎหมายคาสิโน ท่ามกลางแรงต้านจากสังคมและวิกฤตพรรคร่วม

ผู้เชี่ยวชาญด้านคาสิโนและซ็อฟแวร์คาสิโน

รัฐบาลไทยถอนร่างกฎหมายคาสิโน หลังเผชิญกระแสต้านและวิกฤตพรรคร่วมรัฐบาล

ความพยายามของรัฐบาลไทยในการผลักดันร่างกฎหมายคาสิโนเข้าสู่สภา ต้องหยุดชะงักชั่วคราว หลังเผชิญแรงกดดันจากสาธารณชนและความวุ่นวายทางการเมืองที่ส่งผลให้เสียงสนับสนุนในสภาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย นายวิสุทธิ์ ชัยนารุณ วิปฝ่ายรัฐบาล เปิดเผยว่า จะมีการเสนอให้ถอน ร่างกฎหมาย "เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" ออกจากระเบียบวาระการประชุมในวันพุธนี้ ซึ่งเดิมมีกำหนดพิจารณาในสมัยประชุมปัจจุบัน
แม้รัฐบาลจะย้ำว่า “ไม่ได้ถอนเพราะกลัวแรงต้าน” แต่การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณของแรงเสียดทานจากหลายทิศ ทั้งจากเสียงประชาชน กลุ่มการเมืองอนุรักษ์นิยม ไปจนถึง พรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล และการถูกสั่งพักงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จากประเด็นจริยธรรม
การถอนร่างกฎหมายคาสิโน กระทบอนาคตอุตสาหกรรมรีสอร์ตครบวงจรและการลงทุนต่างชาติ
หนึ่งในประเด็นสำคัญของร่างกฎหมายนี้ คือการเปิดทางให้ประเทศไทยสามารถมี รีสอร์ทครบวงจร (Integrated Resorts) พร้อมคาสิโนแบบถูกกฎหมาย เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่จากอุตสาหกรรมคาสิโนโลก เช่น Galaxy Entertainment, MGM Resorts, Las Vegas Sands, Wynn Resorts และ Melco ต่างแสดงความสนใจเข้ามาพัฒนาโครงการในไทย
การถอนร่างกฎหมายในจังหวะนี้ อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และถือเป็นโอกาสที่หลุดลอยในช่วงที่เศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาการท่องเที่ยวสูง — โดยภาคท่องเที่ยวมีสัดส่วนกว่า 13% ของ GDP และจ้างงานกว่า 20% ของแรงงานทั้งหมดในประเทศ
ในเชิงกลยุทธ์ การล่าถอยของรัฐบาลไทยอาจถูกตีความว่าเป็นการขาดความมั่นคงในทิศทางการบริหาร และอาจทำให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา เวียดนาม หรือแม้แต่ฟิลิปปินส์ ก้าวนำหน้าไทยในสมรภูมิรีสอร์ทครบวงจรระดับภูมิภาค

พรรคร่วมแตกแยก-นายกฯ พักงาน การเมืองป่วนกระทบวาระสำคัญของรัฐบาล
การถอนร่างกฎหมายคาสิโนครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ แต่เป็นผลสะท้อนจากแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณี พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเคยคัดค้านกฎหมายนี้มาตั้งแต่ต้น และการที่ แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จากข้อกล่าวหาด้านจริยธรรม
นอกจากนี้ นายกฯ ยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นจาก การรั่วไหลของบทสนทนากับอดีตผู้นำกัมพูชา ฮุน เซน ซึ่งมีถ้อยคำที่ถูกมองว่า "วิจารณ์กองทัพไทย" ในประเด็นข้อพิพาทชายแดน — ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้รัฐบาล ขาดความชัดเจนในการบริหารเสียงในสภา โดยเฉพาะสำหรับร่างกฎหมายที่อ่อนไหวหรือมีผลกระทบเชิงสังคม
การเมืองที่ไม่เสถียรเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า ร่างกฎหมายอื่นที่มีความสำคัญ เช่น ร่างงบประมาณประจำปี 2569 ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาในเดือนสิงหาคมนี้ จะสามารถผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาได้หรือไม่
ความไม่พร้อมด้านสังคม-กฎหมาย ทำให้ร่างกฎหมายคาสิโนยังไปไม่ถึงเป้าหมาย
แม้แนวคิดเรื่อง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จะได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจและนักลงทุน แต่ปฏิกิริยาในสังคมกลับสะท้อนถึงความกังวลด้าน ปัญหาการพนัน และ ความโปร่งใสในการกำกับดูแล
หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ประเทศไทยมี ระบบควบคุมและบังคับใช้กฎหมายที่พร้อมพอหรือไม่ หากต้องเปิดคาสิโนอย่างถูกกฎหมาย รวมถึงความเสี่ยงเรื่อง ฟอกเงิน, อาชญากรรมข้ามชาติ, และ ผลกระทบต่อครอบครัวและชุมชน
การสื่อสารกับประชาชนยังถือเป็นจุดอ่อนสำคัญ รัฐบาลยังไม่สามารถโน้มน้าวได้ว่า การเปิดคาสิโนจะก่อประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในระดับชุมชน มิใช่เพียงในเชิงภาษีหรือตัวเลขเศรษฐกิจระดับมหภาค
การถอนร่างกฎหมายจึงอาจไม่ใช่เพียงแค่การ “ถอยเพื่อตั้งหลัก” แต่เป็นโอกาสในการวางโครงสร้างนโยบายใหม่ที่ สอดคล้องกับบริบทไทย และมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง

นักลงทุนต่างชาติอาจถอยห่าง หากไทยยังไร้เสถียรภาพนโยบายด้านคาสิโนและการท่องเที่ย
การล้มเลิกหรือชะลอร่างกฎหมายคาสิโนในจังหวะที่หลายประเทศกำลังเปิดรับการลงทุนใน รีสอร์ตครบวงจร อาจสร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนต่างชาติ ว่าประเทศไทยยังไม่มี เสถียรภาพเชิงนโยบาย เพียงพอสำหรับการวางแผนระยะยาว
กลุ่มบริษัทระดับโลกที่เคยแสดงความสนใจ เช่น MGM Resorts, Las Vegas Sands, Melco และ Galaxy Entertainment ต่างมีประสบการณ์ในการลงทุนในตลาดที่มี “กติกาชัดเจน” ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือมาเก๊า
หากประเทศไทยยังไม่สามารถสร้างความชัดเจนทั้งในด้านกฎหมาย เงื่อนไขการลงทุน และการบริหารความเสี่ยงเชิงสังคมได้ ความน่าสนใจของตลาดไทยอาจลดลงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังคงพึ่งพา อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นเครื่องยนต์หลักในการฟื้นตัวหลังโควิด-19 การพลาดโอกาสจากโครงการระดับหมื่นล้าน อาจทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
การถอนร่างกฎหมายคาสิโนสะท้อนรอยร้าวการเมือง และความท้าทายในการเดินหมากเศรษฐกิจเชิงรุก
แม้รัฐบาลจะอ้างว่า “ยังไม่พร้อมสื่อสารกับประชาชน” แต่การถอนร่างกฎหมายคาสิโนในจังหวะที่ พรรคร่วมรัฐบาลแตกแยก และนายกรัฐมนตรีถูกพักงาน ย่อมสะท้อนถึง รอยร้าวทางการเมือง ที่ลึกเกินกว่าจะมองข้าม
ในแง่เศรษฐกิจ นี่อาจถือเป็น “โอกาสที่สูญเสีย” ในการวางรากฐานใหม่ให้กับ อุตสาหกรรมบันเทิง-การท่องเที่ยว ของประเทศ หากไม่มีการวางนโยบายอย่างต่อเนื่องและมีความมั่นคงเพียงพอ นักลงทุนระดับโลกอาจเลือกปักหมุดในประเทศอื่นที่พร้อมกว่า
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสามารถใช้ช่วงเวลานี้ในการ สร้างฉันทามติทางสังคม, วางกรอบกฎหมายที่ชัดเจน, และปรับการสื่อสารให้โปร่งใสยิ่งขึ้น — ประเทศไทยยังมีศักยภาพสูงที่จะเป็น “จุดหมายใหม่” ของ รีสอร์ตครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้