คนไทยคว้าแชมป์โมโตทู สนาม 2 ที่อินโดนีเซีย
มาถึงตอนนี้ แฟนๆสิงห์นักบิดชาวไทยได้เฮกันทั่วหน้า เมื่อมีคนไทยสร้างประวัติศาสตร์ได้ขึ้นไปยืนบนโพเดียมคว้าอันดับหนึ่งมาครองได้สำเร็จ ในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกระดับโลก โดยในครั้งนี้ถ้าหากมีใครได้รับชมก็จะเห็นว่าสมเกียรติ จันทรา ได้สู้อย่างเต็มที่ถึงแม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บที่ข้อมือจนถึงขนาดต้องใส่ถุงมือรุ่นพิเศษก็ตาม แต่อาการบาดเจ็บก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการแข่งขันครั้งนี้ของเขาได้เลย นับว่าสุดยอดอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้เขาได้มีการเก็บตัว ร่วมโปรแกรมการทดสอบแบบไพรเวทเทสต์ของนักบิดในรุ่นโมโตทู และโมโตทรี ที่เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน โดยนักบิดชาวไทยสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการซ้อม กดเวลาเป็นอันดับ 1 จากวันแรก ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.342 วินาที
ในช่วงพักเบรกได้ลงทำการฝึกซ้อมตลอดและการได้เข้าแคมป์กับทาง ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เป็นเวลาเกือบ 10 วัน ทางทีมก็ช่วยปรับเปลี่ยนการขับขี่และแก้ไขจุดอ่อนที่เคยประสบปัญหาในการแข่งในฤดูกาลที่แล้วได้เกือบทั้งหมด ซึ่งนับว่าเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งทีมและตัวของก้องเอง
และเขาก็ได้นำจุดบกพร่องของตัวเองในปีที่แล้วมาปรึกษาทางทีมงาน สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่นเวลาเข้าโค้งต่อเนื่องจะทำอย่างไรให้เวลาคงที่ ซึ่งทางทีมงานก็ได้ช่วยปรับแก้ไขและแนะนำวิธีต่างๆ ทำให้การขับขี่ดีขึ้นและมีความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลให้ทำเวลาต่อรอบได้ดี สามารถสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งถือว่าเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่เขาทำได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับตลอด 3 ปีที่แข่งสนามแห่งนี้มา
ในการแข่งครั้งนี้ “ก้อง “ จากทีม อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย นักบิดไทยหนึ่งเดียว ที่เข้าแข่งขันด้วยรถหมายเลข 35 ที่ได้ออกจากสตาร์ทจากกริดที่ 4 ถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บแต่ก็ยังโชว์ผลงานได้อย่างสุดยอด ตั้งแต่ออกสตาร์ท เร่งเครื่องขึ้นมาเป็นผู้นำตั้งแต่โค้งแรกของการแข่งขัน
และสุดท้าย ก้อง สมเกียรติ รักษาระยะห่างในการเป็นผู้นำได้อย่างยอดเยี่ยม การแข่งขันลดลงเหลือ 16 รอบจากเดิม 25 รอบเนื่องจาก 'สภาพสนาม' โดยที่อุณหภูมิสูงเกินไปในภายหลัง (น่าจะหมายถึงความเสียหายของสนามแข่ง) ในขณะที่มีฝนตกบนตารางเป็นบางครั้ง แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งชัยชนะของก้องได้ เขาขี่นำแบบม้วนเดียวจบจนกระทั่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 25 นาที 40.876 วินาที คว้าแชมป์ โมโตทู ในสนามนี้ไปครองได้สำเร็จ ทิ้งห่าง เคเลสติโน เวียตติ นักแข่งอิตาเลียน ถึง 3.230 วินาที ทำให้เขาได้คะแนนสะสมในตารางคะแนนรวมรุ่นโมโตทู ขึ้นมาถึง 14 อันดับเลยทีเดียว ตอนนี้ตำแหน่งของก้องอยู่ที่ 4 ของตาราง มี 25 คะแนน ส่วนผู้นำเป็นของ เคเลสติโน เวียตติ จากอิตาลี มี 45 คะแนน การแข่งโมโตทูก็จะไปเก็บคะแนนกันต่อในสนามที่ 3 ที่จะจัดการแข่งขันที่ประเทศอาร์เจนตินา รายการ อาร์เจนตินา กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 3 เม.ย.2565
ทำความรู้จักสิงห์นักบิด ชาวไทยคนแรกที่ได้ยืนอันดับหนึ่งบนโพเดียมเวิลด์กรังด์ปรีซ
ก้อง สมเกียรติ จันทรา เขาคือนักบิดชาวไทยวัย 23 ปี จากทีม “อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย” สร้างประวัติศาสตร์ เป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์ในรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ด้วย รุ่น โมโตทู (Moto2) ในรายการอินโดนีเซีย กรังด์ปรีซ์
สำหรับพื้นเพ เขาเป็นเด็กจากจังหวัดชลบุรี ผู้ที่มีหัวใจรักความเร็วในการแข่งรถ อีกทั้งทางครอบครัว็ยังให้การสนับสนุน ส่งเขาเรียนรู้การแข่งขันที่ถูกต้องกับทาง A.P. Honda Racing School และด้วยพรสวรรค์ ทำให้เขาได้รับโอกาสในการเข้าทีมเป็นนักแข่งในสังกัดของ A.P. Honda Racing Thailand ต่อมาไม่นาน ก้อง ได้รับทั้งคำแนะนำและคำสอนจากนักแข่งรุ่นพี่และโค้ช อดีตนักบิดไทยคนแรกที่ได้แข่งขันในระดับโมโตทูนั่นคือ ฟิล์ม-รัฐภาคย์ วิไลโรจน์
จุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการนักแข่ง
เข้าสู่วงการนักแข่งรถจากการเข้าคัดเลือกในรายการ Asia Talent Cup ในปี 2013 ท่ามกลางนักแข่งกว่า 600 คน เขาสามารถผ่านการคัดเลือกเข้ามาได้และเวทีนี้ทำให้เขาได้แจ้งเกิดโดยทำผลงานได้ดีขึ้นในทุกปี จนได้ขยับขึ้นชั้นมาถึงระดับโมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปียนชิป หรือการชิงแชมป์โลกเยาวชนรุ่นโมโตทรี (Moto3) ในปี 2017
ด้วยพรสวรรค์และความสามรถทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้โอกาสครั้งสำคัญในการได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด ได้ลงแข่งในระดับโมโตทรีเป็นครั้งแรกในปี 2018 ในรายการไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อจากนั้นเขาก็ขยับมาแข่งขันในรุ่นโมโตทูในอีก 1 ปีถัดมากับทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า เอเชีย (Idemitsu Honda Asia)
ผลงานของก้องนั้นเรียกได้ว่าดีวันดีคืน เข้าร่วมการแข่งขัน รายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ด้วย รุ่น โมโตทู (Moto2) ตั้งแต่ปี 2019 กับทีม “อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย” และในปีแรก เขาเก็บคะแนนได้ถึง 23 แต้มอยู่ในอันดับที่ 21 ของรุ่น ปี 2020 แข่ง 15 สนาม มี 10 แต้ม อยู่อันดับที่ 25 ปี 2021 ลงแข่ง 18 สนาม เก็บได้มากถึง 37 แต้ม อยู่อันดับที่ 18 และเขายังทำได้ดีขึ้นอีกกับการพิชิตอันดับ 5 ในรายการออสเตรีย กรังด์ปรีซ์ และในสนามนี้ยังทำสถิติเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (Fastest Lap)
แต่ในครั้งที่ชาวไทยได้ยินดีกับชัยชนะครั้งนี้ เพราะผลงานนำมาตั้งแต่จุดสตาร์ทยันเข้าเส้นชัยเรียกได้ว่าม้วนเดียวจบ นั่นคือการพิชิตแชมป์ในรายการอินโดนีเซีย กรังด์ปรีซ์ ที่สนามมันดาลิกา โดยแม้จะเริ่มออกตัวจากกริดที่ 4 แต่ก็เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก และคว้าไปถึง 25 คะแนน และอยู่อันดับ 4 และนี่เป็นสนามแรกของปีนี้ ต้องไปรอดูสนามต่อไปที่อาร์เจนติน่า
ผลงานที่ผ่านมา ของ ก้อง สมเกียรติ จันทรา
2013 เข้าร่วมการคัดเลือกในรายการ Asia Talent Cup ที่สนามแข่งเซปัง เอฟ วัน เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย และสามารถผ่านการคัดเลือกมาได้ จากนักแข่งทั้งหมดกว่า 600 คนทั่วเอเชีย
2014 ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup อีกครั้ง และโชว์ผลงานทำคะแนนสะสมคว้าอันดับที่ 11 มาครองได้ในปีแรกที่ทำการแข่งขัน
2015 เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup รุ่น Moto3 โปรดักชั่น เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันเรซที่ 1 ใน การแข่งขันสนามแรกที่สนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคว้ารองแชมป์อันดับ 2 ในการแข่งขันเรซที่ 1 ที่สนามโลเซล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์
2016 เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในรายการนี้ และยังลงแข่งในรายการ Asia Road Racing Championship รุ่น AP 250 cc อีกด้วย
2017 ก้องขยับมาร่วมรายการแข่งขันที่ไต่ระดับขึ้นมาอีกขั้นกับ FIM CEV Moto3 Junior World Championship 2017 และสามารถคว้าแต้มมาได้ถึง 26 คะแนน ทำให้คว้าอันดับที่ 20 บนตารางแชมเปี้ยนชิพมาได้
2018 ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ด ไทยกรังด์ปรีซ์ จบที่ 9 โมโต ทรี
2019 ขยับจาก CEV โมโต ทรี มาลงแข่ง โมโต ทู เต็มตัวเป็นฤดูกาลแรก
2020 อันดับ 9 อีกครั้ง ที่ฝรั่งเศส
2021 ติดอันดับท็อป 5 ที่ออสเตรีย
2022 สร้างประวัติศาสตร์ นักบิดไทยคนแรกได้แชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เก็บคะแนน สนามที่ 2 ประเทศอินโดนีเซีย
เกร็ดความรู้โมโตจีพี
การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ MotoGP นับว่าเป็นการแข่งขันที่ถูกจัดมาอย่างต่อเนื่องมถึง 80 ปี โดยเริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 1949 ให้ชื่อรายการว่า World Champion Motorcycles Grand Prix และได้มีการเปลี่ยนมาใช้ MotoGP ในปี 2002 ส่วนในปี 2018 ประเทศไทยของเราได้รับเกียรติ ให้จัดการแข่งขัน MotoGP เป็นสนามที่ 15 โดยใช้สนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์ในการจัดการแข่งขัน
MotoGP มีการแข่งขันแบ่งเป็นสามรุ่นคือ
Moto3 (รุ่นเล็ก) จะใช้เครื่องยนต์สเปคค่อนข้างเล็กคือ เครื่องยนต์ 4 จังหวะ กระบอกสูบเดียวขนาดความจุ 250 ซีซี. สามารถผลิตแรงม้าออกมาได้ประมาณ 55 แรงม้า และจำกัดรอบเครื่องยนต์ไว้ที่ 14,000 รอบ/นาที และเชื้อเพลิงที่กำหนดให้ใช้ คือ น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว ออคเทน 98 (Unleaded 98 Octane) และที่สำคัญน้ำหนักตัวรถและนักแข่งรวมกันต้องไม่ต่ำกว่า 148 กิโลกรัม ในตัวของนักแข่งยังมีข้อกำหนดในเรื่องของอายุนักแข่งอีกด้วยคือ นักแข่งต้องมีอายุไม่เกิน 28 ปี นับว่ารถแข่งในรุ่น Moto3 เหมือนจะเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของนักแข่งรายการ MotoGP เพื่อที่จะไต่อันดับไปแข่งในรุ่นใหญ่
Moto2 (รุ่นกลาง) ที่ล็อคสเปคความจุกระบอกสูบไว้ที่ 600 ซีซี. จนทำให้หลายๆ คนติดปากเรียกรุ่นแข่งนี้ว่ารุ่น 600 ซีซี.รถแข่ง Moto2 ใช้เครื่องยนต์ของ Honda CBR600RR รถสปอร์ตไบค์ขนาดกลางที่ความแรงดุดันไม่แพ้ตัวพัน สามารถรีดแรงม้าได้ถึง 140 แรงม้า และจำกัดรอบเครื่องยนต์ไว้สูงปรี๊ดที่ 18,000 รอบ/นาที จึงทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง อะไหล่จะถูกสั่งห้ามใช้ดิสก์เบรกคาร์บอนแบบรุ่นใหญ่อย่าง MotoGP มีสิทธิ์ใช้เพียงจานดิสก์เบรกแบบเหล็กเท่านั้น ปัจจุบันขนาดเครื่องยนต์ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง พิกัด 765 ซีซี
MotoGP ( รุ่นใหญ่สุด) โดยชนิดของเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกนั้นต้องเป็น เครื่องยนต์สูบเรียง หรือสูบ V เท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นรุ่นแข่งที่เร็วที่สุด แรงที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 1,000 ซีซี. สามารถสร้างแรงม้าได้ถึง 260 แรงม้า ำ สามารถทำความเร็วได้สูงกว่า 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง และถููกจำกัดรอบไว้อย่างพอเหมาะพอควรที่ 18,000 รอบ/นาที ผสานกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้มีค่าออกเทนสูงถึง 100 พร้อมรองรับความเร็วทะลุ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง และการเข้าโค้งที่ฉีกทุกกฎฟิสิกส์ของเหล่านักแข่งฝีมือสกิลระดับเทพแต่ละคน
ตอนนี้เรามีขวัญใจชาวไทยในแวดวงการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลกได้กำเนิดขึ้นแล้ว ก้อง สมเกียรติ จันทรา และการแข่งขันโมโตจีพีชิงแชมป์โลกรุ่นโมโตทู ก็จะดำเนินการแข่งขันเพื่อสะสมคะแนนอีกหลายสนาม หวังว่าแฟนๆที่ชื่นชอบการพนันออนไลน์และการแข่งพนันรถจักรยานยนต์ออนไลน์ ก็อย่าลืมติดตามผลงานของก้องในสนามต่อไป
สำหรับสนามถัดไปของศึกโมโตทู จะดวลความเร็วในวันที่ 1-3 เม.ย. ที่เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด ประเทศอาร์เจนตินา รายการ “กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนตินา” วันที่ 3 เมษายน ที่ประเทศอาร์เจนติน่า
