ผลสำรวจชี้คนรุ่นใหม่ญี่ปุ่นแห่เล่นคาสิโนออนไลน์ อินฟลูเอนเซอร์กระตุ้นพฤติกรรม

อินฟลูเอนเซอร์ญี่ปุ่นถูกจับตา! โปรโมทคาสิโนออนไลน์เสี่ยงผิดกฎหมาย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (NPA) เผยผลสำรวจครั้งแรกเกี่ยวกับการใช้บริการคาสิโนออนไลน์ในประเทศญี่ปุ่น โดยพบว่ามีประชาชนมากถึง 3.37 ล้านคน ที่เคยใช้หรือกำลังใช้บริการเหล่านี้ แม้การเล่นคาสิโนจะยังถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายภายใต้กฎหมายญี่ปุ่นก็ตาม

ตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงแต่ชี้ให้เห็นถึงขนาดของตลาดคาสิโนออนไลน์ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านล้านเยนต่อปี แต่ยังสะท้อนถึงช่องว่างทางกฎหมาย ความเข้าใจผิดของประชาชน และอิทธิพลของ “อินฟลูเอนเซอร์” ที่มีบทบาทสำคัญในการจูงใจผู้ใช้รุ่นใหม่ให้เข้าสู่โลกของการพนันออนไลน์อย่างไม่รู้ตัว

คนรุ่นใหม่ครองสถิติสูงสุด สะท้อนพฤติกรรมเดิมพันยุคดิจิทัล

ผลสำรวจซึ่งสอบถามกลุ่มตัวอย่างกว่า 27,000 คน พบว่า กลุ่มอายุ 20-30 ปี มีแนวโน้มเข้าใช้คาสิโนออนไลน์สูงที่สุด โดยผู้ที่อายุต่ำกว่า 40 ปีคิดเป็นสัดส่วนรวมกว่า 78% ของผู้ใช้งานทั้งหมด ที่น่ากังวลคือ ราว 40% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่ทราบว่าการเล่นคาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมายในญี่ปุ่น

ข้อมูลนี้สะท้อนพฤติกรรมการบริโภคดิจิทัลที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในหมู่คนรุ่นใหม่ ซึ่งเติบโตมากับแพลตฟอร์มออนไลน์และแอปพลิเคชันที่เข้าถึงง่าย อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลจากคอนเทนต์เชิงบันเทิงที่สอดแทรกการส่งเสริมการพนันอย่างแนบเนียน

อินฟลูเอนเซอร์และระบบ Affiliate กลไกการตลาดที่ผลักคนเข้าสู่การพนัน

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญจากการศึกษาคือ บทบาทของอินฟลูเอนเซอร์และเอเจนซี่ท้องถิ่น ที่ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน ส่งเสริม และแม้กระทั่ง “ปิดการขาย” ให้กับเว็บไซต์คาสิโนต่างประเทศ ไม่ว่าจะผ่านการรีวิวในบล็อก คลิปวิดีโอสตรีม หรือการแจกเครดิตทดลองเล่นฟรี

กลยุทธ์นี้ไม่ต่างจากการทำ “โฆษณาแฝง” ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างสูง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงทดลองและแสวงหาความตื่นเต้นในโลกออนไลน์ ในหลายกรณี ดาราหรือคนดังในโซเชียลมีเดียยังถูกใช้เป็น “พรีเซนเตอร์” ให้กับเว็บไซต์เหล่านี้ ซึ่ง NPA เตรียมออกมาตรการเตือนว่าอาจเข้าข่ายการ “สนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย”

เว็บคาสิโนยอดนิยมในญี่ปุ่นเชื่อมโยงกับต่างประเทศ คูราเซาคอสตาริกา คือศูนย์กลาง

ผลสำรวจระบุชื่อเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ยอดนิยมที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นญี่ปุ่น โดยมี “Vera&John” จาก คูราเซา เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้เล่นมากที่สุด รองลงมาคือ Casinosecret และ Queen Casino ซึ่งตั้งอยู่ใน คอสตาริกา ทั้งหมดเป็นประเทศที่มีกฎหมายเอื้อต่อการเปิดคาสิโนอย่างเสรี

บริษัทผู้ให้บริการเหล่านี้แม้จะถูกกฎหมายในประเทศของตน แต่กลับกลายเป็นผู้ให้บริการผิดกฎหมายในสายตากฎหมายญี่ปุ่นที่ยังห้ามการพนันทุกรูปแบบ เว้นแต่รัฐเป็นผู้ดำเนินการ เช่น การแข่งม้าและจักรยาน การที่เว็บไซต์เหล่านี้สามารถเจาะตลาดญี่ปุ่นได้ จึงแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการ “หลบเลี่ยงระบบ” ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และการใช้ภาษา-วัฒนธรรมญี่ปุ่นในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

สถิติการเข้าชมเว็บคาสิโนพุ่ง ญี่ปุ่นกลายเป็นตลาดใหญ่ในเอเชียตะวันออก

ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมปีที่ผ่านมา เว็บไซต์คาสิโนที่ให้บริการภาษาญี่ปุ่น 35 แห่งได้รับการเข้าชมจากญี่ปุ่นมากถึง 17 ล้านครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่พุ่งทะยาน และการเติบโตแบบไร้การควบคุมของตลาดใต้ดินแห่งนี้

ญี่ปุ่นในวันนี้กำลังกลายเป็น “ตลาดเป้าหมายหลักของอุตสาหกรรมคาสิโนออนไลน์เอเชีย” โดยมีระบบนอมินีและบริษัทตัวแทนท้องถิ่นทำหน้าที่ชำระเงินแทน จัดโปรโมชัน และเชื่อมต่อผู้เล่นกับระบบการเดิมพันจากต่างประเทศแบบเรียลไทม์ ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมากของภาครัฐในการสกัดกั้น

ตำรวจญี่ปุ่นลุยปราบเอเจนซี่ท้องถิ่น เตือนคนดังอย่าสนับสนุนผิดกฎหมาย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น (NPA) ขณะนี้กำลังเร่งปราบปรามกลุ่มที่ “สนับสนุนการพนันผิดกฎหมาย” โดยเฉพาะบริษัทในประเทศที่ทำหน้าที่เป็นเอเจนซี่หรือ Affiliate ให้กับเว็บไซต์คาสิโนต่างประเทศ ทั้งการชำระเงินแทน การโฆษณาโปรโมชัน และการสื่อสารในภาษาญี่ปุ่น

ที่น่าสนใจคือ NPA ยังเตรียม ออกคำเตือนต่อบุคคลมีชื่อเสียง ที่รับหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์หรือโฆษณาแฝงคาสิโนว่าอาจเข้าข่าย “การช่วยเหลือหรือสนับสนุนการกระทำผิด” ตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการควบคุมอิทธิพลของสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ในตลาดสีเทา

บทสรุปข่าว

การเปิดเผยผลสำรวจของ NPA ครั้งนี้ เปรียบเสมือน “การเปิดหน้ากระดาน” ของปัญหาการพนันออนไลน์ในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการครั้งแรก ไม่เพียงเผยให้เห็นจำนวนผู้ใช้ที่พุ่งทะลุ 3 ล้านคน แต่ยังฉายภาพของโครงสร้างทางการตลาดที่เชื่อมโยงกับบริษัทต่างชาติ อินฟลูเอนเซอร์ และระบบการเงินใต้ดินในประเทศ

คำถามที่สำคัญคือ ญี่ปุ่นจะรับมืออย่างไรกับกระแสการพนันดิจิทัลที่กำลังแทรกซึมในทุกมิติของชีวิตออนไลน์? และแนวทางใดที่จะสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภคกับเสรีภาพทางเศรษฐกิจ โดยไม่ปล่อยให้ธุรกิจสีเทาทำลายโครงสร้างกฎหมายที่สังคมยึดถือมาโดยตลอด