คาสิโนข้ามชาติ เครือข่ายพันล้านใต้เงาชายแดนไทย-กัมพูชา

Akkarawat Chaisuk
โดย Akkarawat Chaisuk

ผู้เชี่ยวชาญบทความการเดิมพันออนไลน์

อัปเดต 08 กรกฎาคม 2568
Thai-Cambodian-border-casino
คาสิโนข้ามชาติ เครือข่ายพันล้านใต้เงาชายแดนไทย-กัมพูชา

คาสิโนชายแดน เครือข่ายผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ใต้ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

ความตึงเครียดระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชาที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ไม่ได้เป็นเพียงแค่ประเด็นด้านความมั่นคง หากแต่ยังเปิดโปง “จักรวรรดิคาสิโนพันล้าน” ที่แผ่ขยายอยู่ตลอดแนวชายแดน และเชื่อมโยงไปยังขุมอำนาจทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน

ผลการวิจัยจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน เผยให้เห็นถึงเครือข่ายผลประโยชน์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ธุรกิจคาสิโนชายแดน โดยมีทั้งนักการเมืองระดับสูง ข้าราชการ นักธุรกิจไทย-กัมพูชา และกลุ่มทุนจากนานาประเทศร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการพนันข้ามพรมแดน ที่กลายเป็นเครื่องจักรสร้างเม็ดเงินมูลค่าหลายพันล้านบาทต่อปี

อาณาจักรโคกกง  ศูนย์กลางอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจของ “เซียผาด”

หัวใจของเครือข่ายนี้อยู่ที่ คาสิโนโคกกงรีสอร์ต ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพียง 800 เมตร คาสิโนแห่งนี้เป็นสมบัติของ “เซียผาด” หรือ “Ly Yong Phat” วุฒิสมาชิกกัมพูชาเชื้อสายจีน-ไทย และเจ้าของกลุ่มธุรกิจ LYP Group หนึ่งในกลุ่มทุนใหญ่ที่สุดของกัมพูชา

จากคาสิโน โรงแรม ไปจนถึงนิคมอุตสาหกรรม ถนนส่วนบุคคล และสะพานข้ามแม่น้ำ เครือข่ายของเซียผาดครอบคลุมทุกมิติของเศรษฐกิจชายแดน ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการค้า ยังกลายเป็นฐานปฏิบัติการทางการเมืองที่แนบแน่นกับอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "พี่ชาย" และผู้สนับสนุนหลักของเซียผาดในทางการเมือง

กรณีของโคกกงไม่ได้สะท้อนแค่ความมั่งคั่งของกลุ่มทุน แต่ยังเปิดเผยความเชื่อมโยงเชิงอำนาจที่ลึกซึ้งระหว่างรัฐกับทุน ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ค้ำจุนธุรกิจสีเทาให้สามารถเติบโตได้โดยไร้แรงต้านจากภาครัฐ

ปอยเปต เมืองหลวงคาสิโนชายแดน

ปอยเปต เมืองหลวงคาสิโนชายแดนและขุมทองของนักการเมืองไทย

อีกหนึ่งจุดร้อนของเครือข่ายการพนันคือ ปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมืองนี้มีคาสิโนไม่ต่ำกว่า 150 แห่ง และกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักพนันชาวไทยถึงกว่า 80% ของผู้เล่นทั้งหมด

หนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญคือ “วัฒนา อัศวเหม” หรือที่รู้จักกันในนาม “เจ้าพ่อปากน้ำ” อดีต ส.ส. 11 สมัย ที่เคยถือครองกิจการ Grand Diamond City และพยายามขายในปี 2021 ด้วยมูลค่าสูงถึง 12,000 ล้านบาท ขณะที่ Holiday Poipet และ Star Vegas มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนจากอินโดนีเซีย มาเก๊า ไต้หวัน และนักธุรกิจน้ำมันไทย

สิ่งที่น่ากังวลคือรูปแบบการถือหุ้นผ่าน “นอมินี” ซึ่งนักลงทุนไทยเข้าไปถือหุ้นโดยอ้อมผ่านตัวแทนท้องถิ่น นำไปสู่โครงสร้างรายได้แบบซ้อนชั้น ซึ่งมักมีการจ่ายผลประโยชน์ทั้งระดับท้องถิ่นและส่วนกลาง สร้างเครือข่ายผลประโยชน์ที่ฝังรากลึกและยากจะแยกออกจากโครงสร้างรัฐแบบดั้งเดิม

ระบบ “ถือหุ้นแทน” และโครงสร้างซ้อนชั้นแห่งผลประโยชน์

หนึ่งในกลไกสำคัญที่ทำให้ธุรกิจคาสิโนชายแดนดำเนินไปได้อย่างมั่นคง คือ ระบบการถือหุ้นผ่านตัวแทน (Nominee Shareholding) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจในพื้นที่ เช่น อดีตผู้นำเขมรแดง “ซำพอ” ซึ่งผันตัวมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน สามารถเข้าถือหุ้นในคาสิโนต่างชาติหลายแห่ง ทั้ง Pailin Casino, Crown Diamond, Dream World และ K.R. Victoria

ระบบนี้ทำให้เกิดโครงสร้างรายได้แบบหลายชั้น (multi-layered revenue sharing) ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ทั้งรัฐบาลกลางและท้องถิ่น ขณะเดียวกันยังสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างนักการเมือง นักธุรกิจ และกลุ่มทุนท้องถิ่นในลักษณะที่ใกล้เคียงกับ “รัฐคู่ขนาน” ซึ่งแม้จะอยู่นอกระบบกฎหมาย แต่ก็มีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้

เบื้องหลังการเคลื่อนเงิน คน และอำนาจ

ข้ามแดนแห่งคอร์รัปชัน เบื้องหลังการเคลื่อนเงิน คน และอำนาจ

การศึกษาชี้ให้เห็นว่า การดำเนินงานของคาสิโนชายแดนไม่ได้อยู่ในระบบที่โปร่งใส แต่แวดล้อมไปด้วย ระบบคอร์รัปชันข้ามพรมแดน ที่ต้องจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชาในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเร่งผ่านด่านหนังสือเดินทาง การขนเงินสด การเคลื่อนย้ายแรงงาน ไปจนถึงการลักลอบนำเข้าสินค้าต้องห้าม

โดยเฉพาะการฟอกเงิน คาสิโนหลายแห่งกลายเป็นศูนย์กลางของ การเคลื่อนย้ายทุนเถื่อน และ “วีไอพี” ที่แท้จริงไม่ใช่นักพนัน แต่คือเครือข่ายนักการเมืองและนักธุรกิจไทยที่ใช้คาสิโนในการแปรสภาพเงินจากกิจกรรมผิดกฎหมายให้กลายเป็นทรัพย์สินที่สามารถอ้างที่มาได้ถูกต้อง

แรงสั่นสะเทือนจากมาตรการจำกัดชายแดน จุดเริ่มต้นของการเปิดโปงเครือข่าย

เหตุการณ์ปะทะและการลดเวลาข้ามแดน พร้อมคำสั่งห้ามคนไทยเดินทางไปเล่นพนันที่ปอยเปต อาจดูเหมือนมาตรการควบคุมปัญหาชั่วคราว แต่แท้จริงแล้วเป็นการ สั่นคลอนโครงสร้างผลประโยชน์ใต้ดิน ที่สั่งสมมานานหลายสิบปี

ความเคลื่อนไหวของรัฐไทยในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่กระทบกับรายได้ของคาสิโน แต่ยังเปิดช่องให้สังคมตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “รัฐ-ทุน-อิทธิพล” ที่แฝงอยู่ในการค้าชายแดน นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน หากสังคมสามารถใช้โอกาสนี้ผลักดันความโปร่งใสและการปฏิรูปนโยบายชายแดนอย่างแท้จริง

บทสรุปข่าว

ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา อาจดูเป็นเหตุการณ์ด้านความมั่นคง แต่แท้จริงแล้วได้เปิดโปงโครงข่ายอิทธิพลและธุรกิจคาสิโนพันล้านที่ดำเนินอยู่ในเงามืดมานานนับสิบปี งานวิจัยจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนันได้แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ที่พัวพันกันอย่างซับซ้อนระหว่างรัฐกับทุนท้องถิ่น ข้ามชาติ และกลุ่มอิทธิพล

ขณะที่มาตรการควบคุมชายแดนส่งผลกระทบโดยตรงต่อเครือข่ายเหล่านี้ คำถามสำคัญคือ รัฐจะสามารถใช้โอกาสนี้ในการ “ปลดล็อก” และปฏิรูประบบที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังธุรกิจสีเทาได้หรือไม่? หรือสุดท้ายแล้วจักรวรรดิคาสิโนเหล่านี้จะยังคงเติบโตอย่างเงียบงัน...ในเงาของพรมแดนที่ไม่เคยโปร่งใส

 

แบ่งปันความคิดของคุณในความคิดเห็น
ต้องระบุข้อมูลทุกช่อง
บทความที่เกี่ยวข้อง

รับโบนัสเครดิตฟรีที่ดีที่สุด

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและโปรโมชั่นจากพันธมิตรคาสิโนออนไลน์และสปอร์ตบุ๊คของเรา

คุณสามารถยกเลิกการติดตามได้ทันทีที่คุณต้องการ

หากต้องการสมัครสมาชิกคุณต้องยืนยันว่าคุณมีอายุมากกว่า 18 ปี